WELCOME TO YINGYAI CLUB
วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วัตถุประสงค์
จากการสังเกตการเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนน มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งสาเหตุหลักมาจากความประมาท และหนึ่งในความประมาทนั้นมาจากสภาพรถที่ไม่ดีพอ การศึกษาเรื่องการตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทางอาจมีประโยชน์ต่อผู้ใช้รถใช้ถนน และยังรวมไปถึงการศึกษาเส้นทางอีกด้วย โดยจะแบ่งเป็นข้อๆ
วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ความสำคัญของการตรวจสภาพรถ
กรมการขนส่งทางบกมีหน้าที่รับผิดชอบการตรวจสภาพรถ ทั้งรถที่จดทะเบียน
ตามพระราชบัญญัติ การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และตามพระราชบัญญัติรถยนตร์ พ.ศ. 2522
รถที่จะนำมาใช้ในการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 หรือ
นำมาจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติรถยนตร์ พ.ศ. 2522 จะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ทั้งนี้
เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับรถ ผู้โดยสารไปกับรถคันนั้น ผู้ขับขี่รถคันอื่น ๆ คนเดินถนน
รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.nimitwittaya.com/index.php?mo=3&art=151034
ตามพระราชบัญญัติ การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และตามพระราชบัญญัติรถยนตร์ พ.ศ. 2522
รถที่จะนำมาใช้ในการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 หรือ
นำมาจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติรถยนตร์ พ.ศ. 2522 จะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ทั้งนี้
เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับรถ ผู้โดยสารไปกับรถคันนั้น ผู้ขับขี่รถคันอื่น ๆ คนเดินถนน
รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.nimitwittaya.com/index.php?mo=3&art=151034
วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553
สถานตรวจสภาพรถที่ได้รับอนุญาตจากกรมขนส่งทางบก
สถานตรวจสภาพรถ
วัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถและลดมลภาวะอันเกิดจากรถ รวมทั้งความมั่นคงแข็งแรงและอุปกรณ์ส่วนควบคุมให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมก่อน นำไปใช้งาน จะต้องผ่านการตรวจสภาพกับสถานตรวจสภาพรถเอกชนก่อน จึงจะสามารถต่อภาษีประจำปีได้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานตรวจสภาพรถ
http://www.upd.co.th/car_check_num.php
พ.ร.บ.เกี่ยวกับการตรวจสภาพรถ
http://www.kodmhai.com/m4/m4-1/H17/M71-91.html
ข่าวเกี่ยวกับสถานตรวจสภาพรถเอกชน
http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/77935.html
ความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานตรวจสภาพรถ
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=4121
วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553
การพัฒนาสภาพรถรถของประเทศไทย
ระบบการตรวจสภาพรถของประเทศไทยในอนาคตควรเป็นอย่างไร
ประเทศไทยนับวันจะมีการเดินทางและขนส่ง โดยทางรถยนต์มากขึ้น ซึ่งสถิติจากกรมการขนส่งทางบก ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2546 พบว่าจำนวนรถที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์เท่ากับ 25,548,694 คัน (รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน จำนวน 2,880,893 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 18,210,454 คัน) และจำนวนรถที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกจำนวน 809,168 คัน ประกอบกับสถิติอุบัติเหตุบนทางหลวง ทั่วประเทศยังมีอัตราที่สูง โดยในปี พ.ศ. 2545 มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 91,623 ราย เสียชีวิต 13,116 คน บาดเจ็บ 53,960 คน ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเสมือนภูเขาน้ำแข็ง โดยความเสียหายในส่วนที่มองไม่เห็นนั้น มีอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเสียเวลาการทำงาน การเสียสุขภาพจิต ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553
การตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง
เพื่อให้การเดินทางไกลไปในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วยรถยนต์สวนตัวไม่ว่าจะเป็น การเดินทางท่องเที่ยว หรือกลับถิ่นฐานเดิมในต่างจังหวัด เป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข ไม่ต้องมาปวดหัวกับปัญหารถเสียระหว่างการเดินทาง หรืออาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้ ทั้งนี้ท่านสามารถป้องกันได้กับการตรวจเช็คด้วยตัวเอง และไม่เสียเวลามากนักก่อนเดินทาง จะช่วยให้มั่นใจในการขับขี่ หรือหากพบข้อบกพร่องก็สามารถแก้ไขก่อนเดินทาง สำหรับวิธีการตรวจเช็คเบื้องต้นสามารถทำได้ ดังนี้
ตรวจรถภายนอก
- ยาง ตรวจความดันลมยาง ดอกยาง และรอยฉีกขาด ตรวจดูว่าขันแน่นดี แต่ก็ไม่แน่นจนเกินไปจนคลายออก ไม่ได้ด้วยตัวเอง
- รอยรั่วซึม ตรวจดูว่ามีร่องรอยน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค หรือ น้ำรั่วซึมจากใต้ท้องรถ
- ยางปัดน้ำฝน ทดลองปัดดู
- ไฟส่องสว่าง ตรวจดูไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลี้ยวหรืออื่นๆรวมทั้งระดับไฟหน้าด้วยว่าเป็นปกติทั้ง
ตรวจภายในรถ
- ยางอะไหล่และแม่แรง ตรวจเช็คลมยาง และให้แน่ใจว่าแม่แรงและด้ามขันใช้งานได้ตามปกติ
- เข็มขัดนิรภัย ตรวจเช็คว่าหัวเข็มขัดสามารถลอ็คได้เรียบร้อย
- แตร ให้แน่ใจว่าดังดี
- แผงควบคุมและอุปกรณ์ ตรวจดูให้แน่ใจว่าทำงานเป็นปกติ และที่ปัดน้ำฝน ปัดได้เรียบร้อยสม่ำเสมอ
- เบรก เช็คระยะฟรีขาเบรคอยู่ในค่ากำหนดหรือไม่
- ฟิวส์สำรองที่เตรียมไว้ต้องมีขนาดค่ากระแสใช้ได้ตามที่กำหนดที่แผงฟิวส์ ตรวจใต้ฝากระโปรงหน้า
- ระดับน้ำหล่อเย็น ควรจะมีอยู่ถึงระดับสูงสุดในถังพักสำรอง
- หม้อน้ำและท่อยาง ควรดูว่าด้านหน้าหม้อน้ำหมดจดไม่มีเศษวัสดุ หรือใบไม้ติดอยู่ ดูท่อยางว่ามีรอยแยกเปื่อย มีรอยฉีกขาดหรือหลวม
- สายพานขับต่างๆ ต้องไม่มีรอยแตก เลอะน้ำมันหล่อลื่น และความตึงสายพานอยู่ในค่ากำหนด
- แบตเตอรี่ และสายไฟ ตรวจดูและเติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับที่กำหนดดูเปลือกแบตเตอรี่ว่ามีร่องรอย เสียหายหรือไม่ ดูขั้วต่อและสายไฟว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่
- ระดับน้ำมันเบรคและคลัชท์ ตรวจดูว่าระดับน้ำมันเบรคและคลัทช์อยู่ในระดับที่ถูกต้อง
- ท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจดูว่าท่อน้ำมันมีการรั่ว หลุดหรือไม่
ข้อเสนอแนะการเตรียมพร้อมนอกเหนือจากตรวจสภาพรถในการออกเดินทาง
1. พักผ่อนให้เต็มที่ เพราะถ้าพักไม่พอท่านจะมีแรงขับรถอยู่ไม่นาน แล้วก็จะ...ง่วง.....
2. ถ้าไปในที่ที่ยังไม่ค่อยรู้จักทาง ให้ศึกษาแผนที่ให้ดี มีแผนที่ติดรถไว้บ้าง (รุ่นที่มันทันสมัยหน่อยนะคะ)
3. ถ้ามีคนช่วยบอกทาง ช่วยดูทางด้วยก็จะดีนะคะ (เราไม่ได้ขับรถเอง แต่ต้องเป็นคนดูทาง จำทาง คนขับเค้าหลับไม่ได้เราก็หลับไม่ได้เหมือนกัน)
4. เตรียมน้ำไปหลาย ๆ ขวดก็ดีเผื่อคนบ้าง รถบ้าง อาหารก็เตรียมไปบ้าง เผื่อไว้แหละดี อย่าหวังน้ำบ่อหน้า เราใช้กระติกใส่น้ำแข็งพร้อมแช่ผ้าเย็น แล้วก็เครื่องดื่มบำรุงกำลัง หรือน้ำผลไม้
5. ถ้าง่วงจริง ๆ ก็หาที่ ๆ ปลอดภัยนอนสักงีบ พอตื่นขึ้นมาก็เช็ดหน้าด้วยผ้าเย็น หรือผ้าชุบน้ำเย็น ๆ
ถ้าต้องขับรถไกลๆระยะทาง500กม.ขึ้นไป ก่อนวันเดินทาง 2 วันควร
-นอนให้พอ6-8ชม และตื่นในตอนเช้า
-ระวังสุขภาพและเรื่องอาหารการกินด้วยในช่วงนี้
-กำหนดเส้นทางในการเดินทางไว้ล่วงหน้า(แผนที่ทางหลวงน่ะมีไว้ติดรถด้วยนะ)
-ตรวจสอบสภาำพรถตามปกติแต่เพิ่มลมยางจากปกติอีก2-4ปอนด์/ตรน.
-ใบปัดนํ้าฝนก็ควรเปลี่ยนใหม่ 2-3ร้อยเอง
-อุปกรณ์ฉุกเฉินเช่น
1.แม่แรง+ที่ไขน๊อตล้อ
2.ยางอะไหล่
3.สายลากรถ+สายพ่วงแบ๊ต
4.ขวดนํ้า2ลิตร
5.ไฟฉาย
6.กุญแจรถอีกชุดฝากไว้กับตัวผู้โดยสารนะ เผื่อทำตกหาย
ข้อแนะนําในการขับรถท่องเที่ยวในต่างจังหวัด
1.ไม่ควรขับรถนานติดต่อกันเกิน2ชม.(ควรได้ระยะทางประมาณ200+-20กม.) เพราะจะทำให้อ่อนล้า
2.มื้อเที่ยงควรพักนานหน่อย(ประมาณ1ชม.) ก็อิ่มแล้วง่วงไงล่ะ
3.ผู้โดยสารอย่าหลับหมดนะชวนคนขับคุยด้วยเดี๋ยวคนขับจะหลับไปด้วย
4.ให้เร่งความเย็นแอร์ไว้ครึ่งนึงแต่พัดลมแรงหน่อย
5.ปรับให้ลมภายนอกรถหมุนเวียนเข้ามาบ้างจะได้ไม่ค่อยง่วง (เอาออกซิเจ่นเข้ามาเพิ่มในรถน่ะ)
6.ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการขับในช่วง18.00-19.00น.เพราะมันจะมองอะไรไม่ค่อยชัดเจน
ปล.ฝากไว้ด้วยนะครับเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพสินย์
วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553
สิ่งที่ตามมาหากไม่ตรวจสภาพรถ
ไม่ตรวจสภาพรถให้ดี รถเสียตอนข้ามทางรถไฟ
รถระเบิดเกิดจากระบบไฟ
รถยางระเบิดเพราะไม่ตรวจสภาพยาง
ข่าวเกี่ยวกับการไม่ตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง
http://news.mthai.com/general-news/72590.html
http://hilight.kapook.com/view/52500
http://www.sudhits.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94.html
http://news.2ked.com/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%AF%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)